Chapter 3 The Ancient Town in Vietnam : Hoi An Ancient Town


Chapter 3
ศิลปกรรมในอาณาจักรเวียด : เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Ancient Town)

ซินจ่าว!
          สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกๆท่าน คราวที่แล้วผู้เขียนได้พาผู้อ่านทุกๆท่านไปชมศิลปะเวียดนามที่ได้รับอิทธิพลจากจีนอย่างพระราชวังเมืองเว้กันแล้ว คราวนี้ผู้เขียนจะพาทุกๆท่านไปเที่ยวชมเมืองเก่าของเวียดนามที่ยังคงมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมให้ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้กันค่ะ ซึ่งในบทความที่สามนี้ ผู้เขียนจะนำเสนอ เมืองเก่าฮอยอันซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว๋างนาม จังหวัดเวียดนาม บนแม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) โดยอยู่ห่างจากดานังจากทิศใต้ 30 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
          ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักความเป็นมา ความสำคัญ ที่ตั้งของเมืองโบราณ และสถานที่ห้ามพลาดแห่งนี้กันนะคะ



          
          เมืองฮอยอัน เป็นเมืองเล็กๆบนชายฝั่งทะเลจีนใต้ของประเทศเวียดนาม ชึ่งช่วงคริสตศตวรรษที่ 1 เคยมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นามว่า นครจามปา (Champa city) ต่อมา ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 16 - 17 เมืองฮอยอัน ได้เป็นศูนย์กลางทางการค้าที่มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย




          และในช่วงที่มีการค้าขายนั่นเองค่ะ ที่ทำให้เมืองนี้จึงถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานที่สร้างโดยชาวญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นอีกฝั่งหนึ่งของคลองจากชุมชนจีน มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีหลังคาเหนือสะพาน นอกจากนี้ ยังมีวัดญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้านขวามือของตัวสะพาน ทำให้สะพานดังกล่าว มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าสะพานวัด หรือ Pagoda Bridge ซึ่งเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดหากมาที่เมืองฮอยอันค่ะ



          สะพานญี่ปุ่น (Japanese Bridge หรือ Pagoda Bridge) สร้างขึ้นเมือปี พ.ศ. 2133 โดยชุมชนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองฮอยอัน



          ในปัจจุบันนี้ เมืองฮอยอันก็ยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมากเช่นกัน นักท่องเที่ยวมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรมต่างๆ วัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆภายในเมือง นอกจากนี้ ตามท้องถนนก็ยังมีร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารมากมาย เปิดไว้บริการนักท่องเที่ยว

        



          เอกลักษณ์และเสน่ห์ของเมืองฮอยอันคืออาคารบ้านเรือนแบบเก่าแก่โทนสีเหลืองมัสตาร์ด



          ในช่วงที่เมืองฮอยอันเป็นเมืองค้าขาย พ่อค้าจีนได้นำโคมไฟแบบกลมและเหลี่ยมจากเมืองจีนมาแทนการจุดไฟ และชาวญี่ปุ่นก็ได้นำโคมรูปดาวและโคมห้าเหลี่ยมมาช่วยเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาแก่เมือง ทำให้เมืองนี้ เป็นเมืองแห่งโคมไฟ ดังนั้น ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเจ็ดของทุกปี นอกจากจะมีงานเทศกาลโคมไฟแล้ว ก็จะเห็นร้านขายและสาธิตการทำโคมไฟรูปแบบต่างๆ อยู่ทั่วไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เมืองฮอยอัน ได้จัดให้มี เทศกาลโคมไฟหรือ เทศกาลหลง จู (Long Chu Festival) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเจ็ด (ตามปฏิทินจีน) ทุกปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบประเพณีและวัฒนธรรมของเมืองฮอยอัน ที่มีมาตั้งแต่ช่วงคริสตศตวรรษที่ 19


          องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ในเขตเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในอนุภูมิภาคที่มีการผสมผสานศิลปะ และสถาปัตยกรรมของชาติตะวันตกกับท้องถิ่นเวียดนามได้อย่างมีเอกลักษณ์ อาคารต่างๆ ภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะผ่านอุทกภัยและสงครามต่างๆในช่วงกว่า 400 ปี ที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2542 




          - เปิด 24 ชั่วโมง และไม่เสียค่าชมบริเวณรอบๆเมืองนะคะ -


          เมืองเก่าฮอยอัน แม้ว่าจะเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ แต่เวลานั้นก็มิอาจทำลายเสน่ห์ของชุมชนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานกันอย่างจีนและญี่ปุ่นได้เลย และที่แห่งนี้ยังคงสภาพสมบูรณ์ราวกับว่าเวลานั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานนั่นเอง
          
          บทความที่สามในครั้งนี้และตัวผู้เขียน ขอตัวลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ :)



อ้างอิง
          อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช. (ม.ป.ป.). เมืองฮอยอัน (ออนไลน์). ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2562. จาก
          
          Thaiza. (2553). เสน่ห์แห่งเมืองโบราณฮอยอัน (ออนไลน์). ค้นเมื่อ 16 กันยายน 2562. จาก
          
          Webmaster. (2018). เมืองเก่าฮอยอัน จังหวัดกว๋างนาม ประเทศเวียดนาม (ออนไลน์). ค้นเมื่อ 16 กันยายน 2562. จาก



          

Comments